1. ทานยาต้านการอักเสบ การทานยาบางชนิดในขณะที่ท้องว่างเป็นเรื่องที่เราไม่แนะนำ โดยเฉพาะยาที่ช่วยต้านการอักเสบอย่างแอสไพริน พาราเซตามอล หรือยาชนิดอื่นๆ ที่มีฤทธิ์เหมือนกัน เพราะมันจะไปลดประสิทธิผลของยา และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงอย่างการมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร ดังนั้นคุณควรทานอาหารรองท้องก่อนทานยาชนิดนี้ค่ะ

   2. ดื่มกาแฟ การดื่มกาแฟในตอนเช้าหลังจากที่ท้องว่างเป็นไอเดียที่ไม่ดีสักเท่าไร แม้ว่ามันจะเป็นกาแฟสูตรไม่มีคาเฟอีน เพราะกาแฟสามารถกระตุ้นการผลิตกรด ทำให้เกิดอาการแสบท้อง และปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร แต่หากคุณไม่สามารถเลิกดื่มกาแฟในช่วงเวลานี้ได้ การเติมครีมหรือนมจะช่วยลดผลกระทบด้านลบที่มีต่อทางเดินอาหารได้

   3. ดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้องว่างจะทำให้เกิดอันตรายต่อกระเพาะอาหาร เพราะการดูดซึมของแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งเทียบเท่ากับการฉีดแอลกอฮอล์เข้าไปในหลอดเลือดดำ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์โดยที่ยังไม่มีอาหารตกถึงท้องจะทำให้แอลกอฮอล์ถูกกำจัดออกไปได้ช้าลง ทำให้คุณมีอาการแฮงก์ที่รุนแรงกว่าเดิม อีกทั้งยังส่งผลต่อตับ หัวใจ และไต

   4. ออกกำลังกาย ถ้าคุณอยู่ในช่วงท้องว่าง คุณไม่ควรออกกำลังกายหนักเกินไป เพราะมันจะทำให้คุณสูญเสียมวลกล้ามเนื้อรุนแรงกว่าเดิม นอกจากนี้มันยังทำให้คุณไม่กระตือรือร้นในขณะออกกำลังกาย เพราะร่างกายไม่มีพลังงานเมื่อคุณไม่ได้ทานอาหารนั่นเอง ทั้งนี้หากคุณมีปัญหากับระบบย่อยอาหารซ้ำๆ คุณยิ่งต้องทานอาหารก่อนออกกำลังกายไม่ว่าจะด้วยรูปแบบใดก็ตาม เพราะการทำกิจกรรมทางกายภาพจะไปกระตุ้นการผลิตน้ำย่อย และแน่นอนว่ามันไม่ดีต่อกระเพาะอาหารของคุณค่ะ

   5. ไปซื้ออาหาร การไปช้อปปิ้งสินค้าประเภทอาหารในขณะที่คุณหิว หรือท้องว่างจะยิ่งทำให้คุณซื้ออาหารมากขึ้น ซึ่งมีการค้นพบว่า ความรู้สึกหิวจะทำให้เราซื้ออาหารมากกว่าที่เราต้องการจริงๆ  สำหรับวิธีแก้ปัญหาคือ ให้คุณไปช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตตอนที่ไม่หิวจนเกินไป และพยายามซื้อของตาม Shopping list ที่เตรียมมาจากที่บ้าน ซึ่งมันจะช่วยให้คุณซื้อของน้อยลง แถมยังช่วยประหยัดเงินอีกด้วย

   6. ดื่มน้ำผลไม้ตระกูลซิตรัส กรด และไฟเบอร์ที่พบได้ในผลไม้ตระกูลซิตรัสสามารถทำให้กระเพาะอาหารของคุณเกิดการระคายเคือง เมื่อคุณทานในขณะที่ท้องว่าง ซึ่งมันจะยิ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ อย่างไรก็ตาม การเจือจางน้ำผลไม้ตระกูลซิตรัสในอัตราส่วน 1:1 (สำหรับผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง) หรือ 2:1 สำหรับผลไม้ชนิดอื่นๆ ก็สามารถช่วยลดผลกระทบที่มีต่อกระเพาะอาหารได้

   สำหรับใครที่รู้ตัวว่าเคยทำสิ่งที่เรากล่าวไปข้างต้น ถ้าไม่อยากให้กระเพาะอาหาร หรือระบบย่อยอาหารมีปัญหา การปรับปรุงพฤติกรรมของตัวเองก็สามารถช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ค่ะ